Carhartt ปรับกลยุทธ์สู่ Omni Channel ใช้ Location Intelligence ช่วยให้ธุรกิจก้าวทันความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

Carhartt ประสบความสำเร็จ ปรับกลยุทธ์สู่ Omni Channel ใช้ประโยชน์จาก Location Intelligence ช่วยให้ธุรกิจก้าวทันความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Carhartt (คาร์ฮาร์ต) นั้นก่อตั้งโดย Hamilton Carhartt ในเมือง Detroit รัฐ Michigan เมื่อปี 1889โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการผลิตเสื้อผ้าที่ทนทาน ด้วยผ้าคุณภาพดีและสวมใส่สบายให้กับวิศวกรทางรถไฟ

จากการลงไปพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายคนงานโดยตรง ว่าเขาต้องการเสื้อผ้าแบบไหน ทำให้แบรนด์นีประสบความสำเร็จ นำมาสู่สินค้าที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ถูกใจหลายๆ คน

กว่า 130 ปี ที่ Carhartt มุ่งมั่นทำงานเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างใกล้ชิด ด้วยความท้าทายและซับซ้อนของโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง Carhartt มีการปรับตัว เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้ประโยชน์จากโซลูชันวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ปรับรูปแบบการให้บริการให้ครอบคลุม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายๆ ช่องทางการให้บริการ

 

Opening the Door to Omnichannel

บริษัท Carhartt ได้ปรับตัว หันมาปรับรูปแบบการให้บริการสู่ omnichannel  โดยใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลางในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ กำหนดนิยามใหม่ของธุรกิจ เร่งปรับกลยุทธ์สู่การค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ระหว่างนั้นบริษัท ได้ผลิตเสื้อผ้ารวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากกว่า 20 ล้านชิ้นที่โรงงานในรัฐ Kentucky และ Tennessee เพิ่มรูปแบบการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ และปรับปรุงการให้บริการแบบออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านของตัวเอง ตัวแทนจัดจำหน่าย Partner รวมถึงการบริการในรูปแบบ e-commerce ด้วยการใช้ Location Intelligence ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)  ทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค มองเห็นภาพรวมของสาขาที่มีอยู่และรูปแบบการให้บริการของแต่ละสาขาและช่องทางต่างๆ รวมถึงการแสดงข้อมูลคาดการณ์ในอนาคตเพื่อการวางแผนสู่ความสำเร็จต่อไป

 

Location Analytics Guides Strategic Decisions

ขั้นแรกทีมงาน Carhartt ใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อทำแผนที่ร้านค้า Carhartt ทั้ง 33 แห่ง และร้านค้าตัวแทนจัดจำหน่าย ภายในรัศมี 25 ไมล์ของแต่ละสาขา จากนั้นจึงวางซ้อนข้อมูลการซื้อสินค้าบนแผนที่ เพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพการขายของร้านค้าแต่ละแห่ง และประเภทของลูกค้าที่ซื้อสินค้าในสถานที่เหล่านั้น ขั้นตอนสุดท้ายพวกเขาแบ่งชั้นในการซื้อสินค้าออนไลน์และพฤติกรรมการท่องเว็บเพื่อทำความเข้าใจว่าอีคอมเมิร์ซมีอิทธิพลต่อการใช้จ่ายของลูกค้าในพื้นที่เหล่านั้นอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป Steve Sapardanis ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการขายและการวิเคราะห์ กล่าวว่าการวิเคราะห์นี้ตอบคำถามที่เป็นหัวใจสำคัญของการค้าปลีกทุกช่องทาง

นอกจากนี้การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี GIS ยังช่วยให้ Carhartt ค้นพบว่าการเพิ่มรูปแบบการขายผ่านช่องทางออนไลน์ของ บริษัท ช่วยยกระดับการรับรู้ถึงแบรนด์ Carhartt ในหมู่ลูกค้าได้มากขึ้น และยังช่วยเพิ่มรายได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์การค้าปลีกที่เรียกว่า halo effect  และข้อมูลดังกล่าวยังช่วยให้เหล่าตัวแทนจำหน่ายเห็นคุณค่าของการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ

 

Location Analytics: A Revolutionary Form of Insight

Steve Sapardanis ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการขายและการวิเคราะห์ การวิเคราะห์มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ช่วยให้เห็นตัวเลขและรหัสสีที่บ่งบอกระดับขึ้น- ลง บวกหรือลบ อีกทั้ง Carhartt ยังใช้การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี GIS ในการบริหารจัดการจุดกระจายสินค้าให้กับร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ โดยสามารถดูตำแหน่งจุดกระจายสินค้าที่มีอยู่และตำแหน่งร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ผลลัพธ์จะช่วยประกอบการตัดสินใจด้วยข้อมูลที่แม่นยำและถูกต้อง ว่าควรเพิ่มจุดกระจายสินค้าที่ใดบ้างและสามารถขยายสาขาหรือเพิ่มจุดบริการที่ใดได้บ้างถึงจะรองรับความต้องการที่มากขึ้นและลดต้นทุนค่าขนส่ง

 

Enabling Intelligent Omnichannel Growth

ล่าสุด Carhartt ได้ขยายการใช้ GIS ในการวิเคราะห์แนวโน้มในปัจจุบันไปจนถึงการสร้างแบบจำลองผลลัพธ์ในอนาคต โดยอาศัยรูปแบบการวิเคราะห์ขั้นสูงที่รวบรวมข้อมูลการขายจากหลายช่องทาง พร้อมกับข้อมูลข้อมูลประชากรเพื่อช่วยวางแผนเชิงกลยุทธ์

“ GIS ช่วยสร้างภาพที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและตัดสินใจได้ดีขึ้น” Wayne Newsome ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมข้อมูลบริษัท Carhartt

 

 


 

ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

อ่านเพิ่มเติม

 

 

 

Tags: