การวิเคราะห์ข้อมูลไม่ได้เอาไว้ใช้เพื่อการติดสินใจที่รวดเร็วขึ้นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ปัจจุบันการวิเคราะห์ข้อมูลถูกนำไปใช้ในอีกมิติหนึ่งที่มีผลต่อธุรกิจอย่างมาก นั่นก็คือทำเลนั่นเอง
ข้อมูลด้านพื้นที่หรือเชิงแผนที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมาก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ข้อมูล ทรัพย์สิน ตึก และแทบทุกอย่างถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันด้วยอินเตอร์เน็ตที่มีข้อมูลของตำแหน่งพ่วงอยู่ด้วยเสมอ ความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีด้าน Location Intelligence ยิ่งเห็นได้ชัด การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ การเข้าถึงข้อมูลแบบ real-time เป็นสิ่งที่ Location Intelligence เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในหลากหลายประเภทธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจด้านการให้บริการสารณูปโภค ธุรกิจร้านขายปลีก อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆอีกมากมาย
ในยุคแห่ง smart phone นี้ ข้อมูลพื้นที่คือพื้นฐานของการเก็บจัดข้อมูลทั้งหมด ทั้งการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ ข้อมูลเชิงธุรกิจ ข้อมูลทรัพย์สิน ซึ่งถูกเก็บข้อมูลเป็นชั้นซ้อนลงบนแผนที่ เพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ จากการจัดเก็บข้อมูล และเรียกดูข้อมูลแบบ real-time บนรูปแบบของแผนที่
ปัจจุบันการปฏิวัติดิจิทัล (Digital revolution) ที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อธุรกิจ เพื่อความอยู่รอดในตลาด ธุรกิจต้องมีความน่าเชื่อถือ มีระบบการทำงานที่สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว สร้างข้อมูลเชิงลึกที่เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้ง (Location Strategy) คุณสามารถปลดล๊อคและใช้ข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อเอาชนะคู่แข่ง สร้างความพอใจให้ลูกค้า และค้นพบหนทางใหม่ๆ เพื่อการเติบโตที่มีผลกำไร
คุณจะสามารถค้นพบว่ากลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้ง (Location Strategy) สามารถเปิดเผยข้อมูลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังในส่วนต่างๆของธุรกิจของคุณได้อย่างไร เพียงป้อนรหัสไปรษณีย์ และเลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำรวจการใช้จ่ายที่แตกต่างกันของผู้บริโภคได้สูงถึง 10 ราย, ข้อมูลประชากร, แนวโน้มพฤติกรรม และสามารถดูข้อมูลของพื้นที่ใกล้เคียงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในธุรกิจมักใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อคุณใช้ประโยชน์จากการบูรณาการและอำนาจของการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้ง คุณสามารถเพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้า (Customer Royalty), ปรับปรุงพอร์ตการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์, ตัดต้นทุนการดำเนินงาน และ สร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ดีขึ้นกว่าเดิม กลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้ง (Location Strategy) สามารถช่วยให้ทุกธุรกิจพบการเจริญเติบโตแบบให้ผลกำไร (profitable growth)
ผู้ค้าปลีกค้นพบข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าและตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผสมผสานผลิตภัณฑ์และเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ค้นพบพื้นที่มีค่าที่ซ่อนอยู่ในตลาด และสามารถพิจารณาการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด ผู้ผลิตสามารถเปิดตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ของตน และติดตามการกระจายสินค้าได้อย่างอย่างใกล้ชิด หรือ บริษัทด้านโลจิสติกส์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในขอบเขตพื้นที่ และการดำเนินงานเพื่อเพิ่มระดับการให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ของกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้ง (Location Strategy) และบริบทของข้อมูลที่มาจาก IoT Sensor, ระบบ CRM และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อได้ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง จากตารางการทำงานกับตัวเลขยอดขายสู่ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มียอดขายเป็นข้อมูลขนาดใหญ่หลายพันล้านเร็กคอร์ด ทำให้คุณค้นพบความหมายของข้อมูลในอีกระดับ
ในโลกที่ทำงานแบบเรียลไทม์ เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ คุณควรเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ เพื่อพบโอกาสและอุปสรรคทางธุรกิจ ได้ก่อนคู่แข่ง เป็นการวิเคราะห์เชิงทำนาย (predictive analytics) ของข้อมูล IoT และข้อมูลของคุณเอง เพื่อครอบครองการเป็นผู้นำทางธุรกิจ
บุคลากรคือส่วนสำคัญทางธุรกิจ และพวกเค้าต้องทำการตัดสินใจที่เกี่ยวกับธุรกิจเป็นร้อยครั้งต่อวัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมอบเครื่องมือที่จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเติบโต กลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้ง (Location Strategy) ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เอง ลดระยะเวลาในการตัดสินใจและสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจของคุณ