ย้ายระบบสู่ ArcGIS Indoors เพื่อจัดการโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัย

 

สถาบันการศึกษาระดับสูงที่มีการวิจัยทางวิชาการอย่างมหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์ (University of Rhode Island: URI) มีการนำเทคโนโลยีบริหารจัดการทรัพยากรอาคารที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า Computer-aided facilities management (CAFM) มาใช้เพื่อดูแลฐานข้อมูลการใช้พื้นที่และ Floor plan ในมหาวิทยาลัย โดยเดิมทีทางมหาวิทยาลัยใช้ระบบที่มีชื่อว่า INSITE ซึ่งมาพร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ซอฟต์แวร์ Net-FM และ Visual-FM

INSITE เป็นระบบบันทึกข้อมูลที่นำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ฝ่ายอาคารใช้ระบบนี้ในการจัดการดูแลพื้นที่ ฝ่ายจัดการทรัพย์สินและงานบริการใช้เพื่อจัดการบัญชีทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะใช้ข้อมูลที่แม่นยำและอัปเดตเสมอเพื่อวางแผนและรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน ในขณะที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัยก็ต้องการข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบ ลดความเสียหาย และบรรเทาปัญหา แต่ปัญหามีอยู่ว่าระบบ INSITE กำลังจะหยุดให้บริการ มหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องหาระบบอื่นมาทดแทน และในที่สุดพวกเขาก็พิจารณาเลือกใช้ระบบ ArcGIS Indoors เพราะสามารถใช้กับระบบ GIS เดิมของมหาวิทยาลัยได้ ทั้งยังมีค่าใบอนุญาตที่ต่ำ และสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายผ่าน Dashboard ต่าง ๆ

 

ทำไมต้อง ArcGIS Indoors

แม้ว่าระบบ CAFM ส่วนใหญ่จะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานที่ใช้เป็นประจำ แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอาจเห็นว่าใช้งานไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องดึงข้อมูลจากระบบไปใช้ประกอบการตัดสินใจ และด้วยเหตุนี้ทางผู้ดูแลระบบจึงต้องเสียเวลาย้ายข้อมูลจากระบบ CAFM ไปใส่ในสเปรดชีต หรือไม่ก็สร้างรายงานและ Dashboard เพิ่มเติมโดยใช้แอปพลิเคชันอื่น แทนที่พวกเขาจะมีเวลาไปพัฒนาคุณภาพของข้อมูลและสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ระบบดียิ่งขึ้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วข้อมูลที่ดีต้องดึงมาใช้ง่าย ทำให้เห็นภาพ และง่ายต่อการวิเคราะห์ โดยไม่ต้องพึ่งผู้ดูแลระบบมากนัก

ทางมหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์เองก็ต้องการระบบที่สามารถให้บริการบุคลากรในมหาวิทยาลัยได้ดีกว่าเดิม เพื่อใช้ติดตามข้อมูลตำแหน่งสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ การเก็บข้อมูลภาคสนาม การแชร์ข้อมูลที่ง่ายยิ่งขึ้น และการพัฒนาระบบเก็บข้อมูลสำหรับแผนกที่ยังไม่มีโดยเร็ว ซึ่งการพัฒนาระบบก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยฝ่ายไอทีส่วนกลางด้วย นอกจากนั้น ตั้งแต่สถานการณ์โควิดผ่านพ้นไป ทางคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา หรือแม้กระทั่งบุคคลภายนอก ก็มีความต้องการใหม่ ๆ เช่น ผู้ช่วยบอกตำแหน่งของสถานที่ต่าง ๆ  ภายในมหาวิทยาลัย ระบบจัดการตารางใช้งานของห้องและเวิร์กสเตชันต่าง ๆ และข้อมูลไดเรกทอรี เป็นต้น

และระบบที่มีความสามารถหลากหลายตอบโจทย์ทางมหาวิทยาลัยได้นั่นก็คือ ArcGIS Indoors ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้ใบอนุญาตแล้วจากข้อตกลงทางการศึกษาของ Esri โดยระบบ ArcGIS Indoors มี Interface ที่สวยงามทำให้ใช้งานง่าย และสามารถใช้ได้ในหลากหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่ Desktop เว็บ และโมบาย ทั้งยังมีแอปพลิเคชันสำหรับตู้ Kiosk อีกด้วย

เทคโนโลยี GIS ยังสามารถจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งแตกต่างจากระบบ CAFM ที่ไม่สามารถสร้าง Interface ให้ผู้ใช้งานดู Floor plan หรือข้อมูลพื้นที่ว่าง ตำแหน่งของทรัพย์สิน และสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกอาคาร รวมทั้งไม่สามารถจัดการตาราง และแนะนำเส้นทางจากอาคารหรือสถานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ และหากคำนึงถึงการใช้งานในอนาคต ArcGIS Indoors ก็มีศักยภาพเหนือกว่าเพราะสามารถสร้าง Digital twin ของมหาวิทยาลัยให้เกิดขึ้นจริงได้ ผ่านการผสมผสานข้อมูลสามมิติที่ได้จาก Autodesk Revit, Building information models (BIMs) และ Lidar

 

ความท้าทายในการนำมาใช้งาน

ระบบ INSITE ที่ใช้อยู่เดิมเหมือนกับระบบ CAFM ทั่วไปตรงที่เป็นระบบที่สร้างภายใต้คู่มือ Postsecondary Education Facilities Inventory and Classification Manual (FICM) ทำให้การจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ในระบบ ไม่ได้ยุ่งยากนัก เพราะภายในระบบมีตารางข้อมูลพื้นที่ที่ใช้งานหลัก และโค้ดต่าง ๆ ตามคู่มือของ FICM อยู่แล้ว

 

การย้ายข้อมูล

อย่างไรก็ดี การย้ายข้อมูลจากระบบ INSITE ไปสู่ระบบ ArcGIS Indoors ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในเรื่องการเตรียมข้อมูล Floor plan ซึ่งในจุดนี้ทางมหาวิทยาลัยได้รับการช่วยเหลือจากทีมงานของ Esri ให้ความรู้ในการเตรียมข้อมูล Floor plan ด้วย AutoCAD เพื่อใช้กับระบบ ArcGIS Indoors ทั้งยังทำให้เข้าใจกระบวนการทั้งหมด รวมทั้งขอบเขตโปรเจ็กต์ และความยากในการย้ายข้อมูลอีกด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ Floor plan ในระบบ INSITE ใช้ซอฟต์แวร์ Visual-FM ซึ่งไม่ใช่ไฟล์ AutoCAD ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องแปลง Floor plan ให้เป็นไฟล์ AutoCAD ด้วยวิธีแมนวลเสียก่อน แต่ด้วย Floor plan ที่มีมากถึง 800 ชั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องหาบริการจาก Third party ที่มีเครื่องมือแปลงไฟล์แบบอัตโนมัติ หรือใช้วิธีการเขียนสคริปต์อีกทีหนึ่ง

เมื่อการจัดเก็บข้อมูลพื้นที่เบื้องต้นได้ถูกสร้างภายในระบบ ArcGIS Indoors เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือการหาวิธีย้ายข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบ CAFM ซึ่งเกี่ยวกับลักษณะของพื้นที่ เช่น ข้อมูลการใช้พื้นที่สำนักงาน การใช้งานห้องวิจัย ไปจนกระทั่งลักษณะเฉพาะของพื้นที่ เป็นต้น

ข้อมูลพื้นที่ในแต่ละตารางภายในระบบ INSITE จะมีตัวบ่งชี้เฉพาะ หรือ ID (ระบบ ArcGIS ก็ใช้ตัวบ่งชี้เฉพาะเช่นเดียวกัน) ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมตารางที่มีข้อมูลลักษณะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด และผูกลักษณะเหล่านั้นเข้ากับพื้นที่ที่เหมาะสม

ตัวบ่งชี้เฉพาะเหล่านี้จะถูกคัดลอกไปไว้อีกที่หนึ่งภายในระบบ INSITE ซึ่งสามารถดูได้ใน Floor plan ผ่านฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า INSITE space label และเมื่อ Floor plan ในระบบ INSITE ถูกแปลงเป็น AutoCAD ตัวบ่งชี้เหล่านี้ก็จะติดไปพร้อมกับป้ายข้อมูลพื้นที่ (Space label) กลายเป็นคำอธิบายภายใน AutoCAD และจากนั้นเมื่อข้อมูล Floor plan ถูกย้ายเข้าระบบ ArcGIS Indoors คำอธิบายเหล่านี้ก็จะถูกใส่เข้าไปในระบบด้วย

ด้วยกระบวนการดังกล่าว การจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ในระบบ ArcGIS Indoors จึงมีตัวบ่งชี้เฉพาะจากระบบ INSITE ฝังอยู่ การย้ายข้อมูลอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องง่าย เพียงต่อเข้ากับ Open Database Connectivity (ODBC) ก็สามารถย้ายข้อมูลจากระบบ INSITE ไปตารางที่เกี่ยวข้องกันในระบบ ArcGIS Indoors ผ่านการใช้ตัวบ่งชี้เฉพาะของพื้นที่ที่เหมือนกัน วิธีนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าลักษณะต่าง ๆ ของพื้นที่จากระบบ INSITE ได้ถูกผูกเข้ากับพื้นที่ที่เหมาะสมในระบบ ArcGIS Indoors โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลแบบแมนวลให้วุ่นวาย และเมื่อการย้ายข้อมูลเสร็จสิ้น เราก็สามารถลบตัวบ่งชี้เฉพาะของระบบ INSITE ที่อยู่ในระบบ ArcGIS Indoors ได้

บุคลากรในมหาวิทยาลัยสามารถใช้งาน ArcGIS Indoors ได้อย่างง่ายดายผ่าน Interface ที่สวยงาม และสามารถใช้ได้บน Desktop เว็บ และโมบาย รวมทั้งมีแอปพลิเคชันสำหรับตู้ Kiosk ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

ผลลัพธ์

มาพูดถึงผลลัพธ์สุดท้ายกันบ้าง เห็นได้ชัดว่าค่าใบอนุญาตรายปีของมหาวิทยาลัยลดลงอย่างมาก โดยทางมหาวิทยาลัยคาดว่าการเปลี่ยนมาใช้ระบบ ArcGIS Indoors จะลดค่าใบอนุญาตรายปีได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว (หลังจากคำนวณรวมค่าใบอนุญาตของทั้ง ArcGIS Indoors และ AutoCAD ที่นำมาใช้แทนระบบ INSITE แล้ว)

 

 


 

ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

 

อ่านเพิ่มเติม

 



Migrating to ArcGIS Indoors to Manage University Infrastructure

 

The University of Rhode Island (URI), like so many other higher education research institutions relying on indirect cost rate agreements, has long utilized a computer-aided facilities management (CAFM) system to maintain the institution’s space database and floor plan library. Our current system is the INSITE suite of products including Net-FM and Visual-FM.

INSITE has developed into a system of record for other needs as well. The Facilities Group uses it to manage the physical campus, and it aids Property & Support Services in managing the moveable asset inventory. Public Safety relies on accurate and up-to-date data for emergency planning and response, while Environmental Health and Safety requires the data for inspections, abatements, and mitigations. URI recently learned INSITE was being deprecated and a replacement was needed. It would be easy to say that URI considered ArcGIS Indoors based on a combination of existing GIS infrastructure and low licensing costs, but that would not tell the whole story. ArcGIS Indoors makes data easily accessible to decision-makers through dashboards.

 

Why ArcGIS Indoors?

Most CAFM systems are extremely useful to those who work in them daily. But how easy are they for others to use? We found that decision-makers relying on the CAFM data had difficulty interacting with the systems. As a result, CAFM operators spent too much time dumping data into spreadsheets or building reports and dashboards using third-party applications rather than focusing on data quality and creating new features. The data needs to be easier to retrieve, visualize, and analyze by decision-makers with less support from CAFM operators.

URI requires a system that also provides greater service to the campus community. Operationally, the campus community needs to track location data for multiple types of assets, collect data in the field, easily share data, and quickly develop systems of record for departments where none currently exist. At the same time, the university must meet the stringent system/data security requirements established by centralized IT. Also, faculty, staff, students, and guests want wayfinding assistance, room and workstation scheduling, and directory information—especially in a post-COVID-19 world.

ArcGIS Indoors, combined with existing products already licensed through our Esri educational agreement, gives URI these capabilities and more. In addition, the campus community will be able to access ArcGIS Indoors using a sleek graphic interface that is available on the desktop, the web, and mobile devices and through kiosk applications that are included with the license.

Also, GIS will now manage spatial data both inside and outside our facilities. Can another CAFM system provide an interface that lets users interact with floor plans, occupancy information, asset locations, and campus features outside the facilities while also providing scheduling capabilities with navigation from building to building or space to space? And—when considering future needs—ArcGIS Indoors brings URI closer to a true digital twin of the campus that is ready to integrate 3D data from Autodesk Revit, building information models (BIMs), and lidar.

 

Implementation Challenges

For starters, INSITE, like many other CAFM systems, is designed around the Postsecondary Education Facilities Inventory and Classification Manual (FICM). Establishing the space inventory in INSITE was straightforward, as preexisting tables contained the FICM major uses and associated codes.

 

Data Migration

The other challenge we face is the data migration from INSITE to ArcGIS Indoors, especially floor plan preparation. The Esri ArcGIS Indoors team has been a great resource for learning about how to prepare AutoCAD floor plans for ArcGIS Indoors. The team helped us understand the process, project scope, and data migration challenges. However, URI utilizes INSITE’s floor plan editing software, Visual-FM. URI plans are not AutoCAD files, so URI created a workflow to manually convert the plans to AutoCAD files. But with 800 floor plans, URI is seeking a third party to handle the AutoCAD conversion using automated processes or scripting.

Our CAFM system contains other important space attribute data such as office occupancy, research laboratory assignments, and space features. We needed a means to import the remaining data once ArcGIS Indoors was populated with the basic space inventory.

ArcGIS utilizes unique identifiers in the attribute tables and so do other databases. The INSITE space table includes unique IDs for each space. This space ID serves as a join for all the other related tables containing space attribute data and ties the attribute to the appropriate space.

These unique IDs are being copied to another field in INSITE that can be viewed on the floor plans through the INSITE floor plan editor in what is known as the INSITE space label. When the INSITE floor plans are converted to AutoCAD, the space ID will be included with the space label as it is transformed into an AutoCAD annotation. The annotation is then imported into ArcGIS Indoors when the floor plans are imported.

This will result in the ArcGIS Indoors space inventory containing the INSITE unique space ID. We can then utilize an Open Database Connectivity (ODBC) connection to transfer data from INSITE to related tables in ArcGIS Indoors by creating a join using the unique space ID as the common field. This will ensure that the INSITE space attributes are tied to the appropriate space in ArcGIS Indoors without manually editing each record. Once the data migration is complete, the INSITE unique space ID can be deleted from the ArcGIS Indoors data model.

The campus community will be able to access ArcGIS Indoors via graphic interface available on the desktop, the web, mobile devices, and kiosk applications that are included with the license.

 

The Bottom Line

Finally, let’s talk bottom line. What is this going to cost? Our annual licensing costs are being reduced significantly. We estimate the ArcGIS Indoors migration will reduce our annual CAFM costs by almost 70 percent. That’s after accounting for both the ArcGIS Indoors and AutoCAD licensing required to replace the INSITE suite of products.

 

 


Unleashing GIS Technology’s potential in every industries

 

Read more



ย้ายระบบสู่ ArcGIS Indoors เพื่อจัดการโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัย

 

สถาบันการศึกษาระดับสูงที่มีการวิจัยทางวิชาการอย่างมหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์ (University of Rhode Island: URI) มีการนำเทคโนโลยีบริหารจัดการทรัพยากรอาคารที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า Computer-aided facilities management (CAFM) มาใช้เพื่อดูแลฐานข้อมูลการใช้พื้นที่และ Floor plan ในมหาวิทยาลัย โดยเดิมทีทางมหาวิทยาลัยใช้ระบบที่มีชื่อว่า INSITE ซึ่งมาพร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ซอฟต์แวร์ Net-FM และ Visual-FM

INSITE เป็นระบบบันทึกข้อมูลที่นำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ฝ่ายอาคารใช้ระบบนี้ในการจัดการดูแลพื้นที่ ฝ่ายจัดการทรัพย์สินและงานบริการใช้เพื่อจัดการบัญชีทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสาธารณะใช้ข้อมูลที่แม่นยำและอัปเดตเสมอเพื่อวางแผนและรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน ในขณะที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัยก็ต้องการข้อมูลเพื่อใช้ในการตรวจสอบ ลดความเสียหาย และบรรเทาปัญหา แต่ปัญหามีอยู่ว่าระบบ INSITE กำลังจะหยุดให้บริการ มหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องหาระบบอื่นมาทดแทน และในที่สุดพวกเขาก็พิจารณาเลือกใช้ระบบ ArcGIS Indoors เพราะสามารถใช้กับระบบ GIS เดิมของมหาวิทยาลัยได้ ทั้งยังมีค่าใบอนุญาตที่ต่ำ และสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายผ่าน Dashboard ต่าง ๆ

 

ทำไมต้อง ArcGIS Indoors

แม้ว่าระบบ CAFM ส่วนใหญ่จะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานที่ใช้เป็นประจำ แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอาจเห็นว่าใช้งานไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องดึงข้อมูลจากระบบไปใช้ประกอบการตัดสินใจ และด้วยเหตุนี้ทางผู้ดูแลระบบจึงต้องเสียเวลาย้ายข้อมูลจากระบบ CAFM ไปใส่ในสเปรดชีต หรือไม่ก็สร้างรายงานและ Dashboard เพิ่มเติมโดยใช้แอปพลิเคชันอื่น แทนที่พวกเขาจะมีเวลาไปพัฒนาคุณภาพของข้อมูลและสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ระบบดียิ่งขึ้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วข้อมูลที่ดีต้องดึงมาใช้ง่าย ทำให้เห็นภาพ และง่ายต่อการวิเคราะห์ โดยไม่ต้องพึ่งผู้ดูแลระบบมากนัก

ทางมหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์เองก็ต้องการระบบที่สามารถให้บริการบุคลากรในมหาวิทยาลัยได้ดีกว่าเดิม เพื่อใช้ติดตามข้อมูลตำแหน่งสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ การเก็บข้อมูลภาคสนาม การแชร์ข้อมูลที่ง่ายยิ่งขึ้น และการพัฒนาระบบเก็บข้อมูลสำหรับแผนกที่ยังไม่มีโดยเร็ว ซึ่งการพัฒนาระบบก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยฝ่ายไอทีส่วนกลางด้วย นอกจากนั้น ตั้งแต่สถานการณ์โควิดผ่านพ้นไป ทางคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา หรือแม้กระทั่งบุคคลภายนอก ก็มีความต้องการใหม่ ๆ เช่น ผู้ช่วยบอกตำแหน่งของสถานที่ต่าง ๆ  ภายในมหาวิทยาลัย ระบบจัดการตารางใช้งานของห้องและเวิร์กสเตชันต่าง ๆ และข้อมูลไดเรกทอรี เป็นต้น

และระบบที่มีความสามารถหลากหลายตอบโจทย์ทางมหาวิทยาลัยได้นั่นก็คือ ArcGIS Indoors ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้ใบอนุญาตแล้วจากข้อตกลงทางการศึกษาของ Esri โดยระบบ ArcGIS Indoors มี Interface ที่สวยงามทำให้ใช้งานง่าย และสามารถใช้ได้ในหลากหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่ Desktop เว็บ และโมบาย ทั้งยังมีแอปพลิเคชันสำหรับตู้ Kiosk อีกด้วย

เทคโนโลยี GIS ยังสามารถจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งแตกต่างจากระบบ CAFM ที่ไม่สามารถสร้าง Interface ให้ผู้ใช้งานดู Floor plan หรือข้อมูลพื้นที่ว่าง ตำแหน่งของทรัพย์สิน และสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกอาคาร รวมทั้งไม่สามารถจัดการตาราง และแนะนำเส้นทางจากอาคารหรือสถานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ และหากคำนึงถึงการใช้งานในอนาคต ArcGIS Indoors ก็มีศักยภาพเหนือกว่าเพราะสามารถสร้าง Digital twin ของมหาวิทยาลัยให้เกิดขึ้นจริงได้ ผ่านการผสมผสานข้อมูลสามมิติที่ได้จาก Autodesk Revit, Building information models (BIMs) และ Lidar

 

ความท้าทายในการนำมาใช้งาน

ระบบ INSITE ที่ใช้อยู่เดิมเหมือนกับระบบ CAFM ทั่วไปตรงที่เป็นระบบที่สร้างภายใต้คู่มือ Postsecondary Education Facilities Inventory and Classification Manual (FICM) ทำให้การจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ในระบบ ไม่ได้ยุ่งยากนัก เพราะภายในระบบมีตารางข้อมูลพื้นที่ที่ใช้งานหลัก และโค้ดต่าง ๆ ตามคู่มือของ FICM อยู่แล้ว

 

การย้ายข้อมูล

อย่างไรก็ดี การย้ายข้อมูลจากระบบ INSITE ไปสู่ระบบ ArcGIS Indoors ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในเรื่องการเตรียมข้อมูล Floor plan ซึ่งในจุดนี้ทางมหาวิทยาลัยได้รับการช่วยเหลือจากทีมงานของ Esri ให้ความรู้ในการเตรียมข้อมูล Floor plan ด้วย AutoCAD เพื่อใช้กับระบบ ArcGIS Indoors ทั้งยังทำให้เข้าใจกระบวนการทั้งหมด รวมทั้งขอบเขตโปรเจ็กต์ และความยากในการย้ายข้อมูลอีกด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ Floor plan ในระบบ INSITE ใช้ซอฟต์แวร์ Visual-FM ซึ่งไม่ใช่ไฟล์ AutoCAD ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องแปลง Floor plan ให้เป็นไฟล์ AutoCAD ด้วยวิธีแมนวลเสียก่อน แต่ด้วย Floor plan ที่มีมากถึง 800 ชั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องหาบริการจาก Third party ที่มีเครื่องมือแปลงไฟล์แบบอัตโนมัติ หรือใช้วิธีการเขียนสคริปต์อีกทีหนึ่ง

เมื่อการจัดเก็บข้อมูลพื้นที่เบื้องต้นได้ถูกสร้างภายในระบบ ArcGIS Indoors เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือการหาวิธีย้ายข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบ CAFM ซึ่งเกี่ยวกับลักษณะของพื้นที่ เช่น ข้อมูลการใช้พื้นที่สำนักงาน การใช้งานห้องวิจัย ไปจนกระทั่งลักษณะเฉพาะของพื้นที่ เป็นต้น

ข้อมูลพื้นที่ในแต่ละตารางภายในระบบ INSITE จะมีตัวบ่งชี้เฉพาะ หรือ ID (ระบบ ArcGIS ก็ใช้ตัวบ่งชี้เฉพาะเช่นเดียวกัน) ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมตารางที่มีข้อมูลลักษณะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด และผูกลักษณะเหล่านั้นเข้ากับพื้นที่ที่เหมาะสม

ตัวบ่งชี้เฉพาะเหล่านี้จะถูกคัดลอกไปไว้อีกที่หนึ่งภายในระบบ INSITE ซึ่งสามารถดูได้ใน Floor plan ผ่านฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า INSITE space label และเมื่อ Floor plan ในระบบ INSITE ถูกแปลงเป็น AutoCAD ตัวบ่งชี้เหล่านี้ก็จะติดไปพร้อมกับป้ายข้อมูลพื้นที่ (Space label) กลายเป็นคำอธิบายภายใน AutoCAD และจากนั้นเมื่อข้อมูล Floor plan ถูกย้ายเข้าระบบ ArcGIS Indoors คำอธิบายเหล่านี้ก็จะถูกใส่เข้าไปในระบบด้วย

ด้วยกระบวนการดังกล่าว การจัดเก็บข้อมูลพื้นที่ในระบบ ArcGIS Indoors จึงมีตัวบ่งชี้เฉพาะจากระบบ INSITE ฝังอยู่ การย้ายข้อมูลอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องง่าย เพียงต่อเข้ากับ Open Database Connectivity (ODBC) ก็สามารถย้ายข้อมูลจากระบบ INSITE ไปตารางที่เกี่ยวข้องกันในระบบ ArcGIS Indoors ผ่านการใช้ตัวบ่งชี้เฉพาะของพื้นที่ที่เหมือนกัน วิธีนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าลักษณะต่าง ๆ ของพื้นที่จากระบบ INSITE ได้ถูกผูกเข้ากับพื้นที่ที่เหมาะสมในระบบ ArcGIS Indoors โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลแบบแมนวลให้วุ่นวาย และเมื่อการย้ายข้อมูลเสร็จสิ้น เราก็สามารถลบตัวบ่งชี้เฉพาะของระบบ INSITE ที่อยู่ในระบบ ArcGIS Indoors ได้

บุคลากรในมหาวิทยาลัยสามารถใช้งาน ArcGIS Indoors ได้อย่างง่ายดายผ่าน Interface ที่สวยงาม และสามารถใช้ได้บน Desktop เว็บ และโมบาย รวมทั้งมีแอปพลิเคชันสำหรับตู้ Kiosk ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

ผลลัพธ์

มาพูดถึงผลลัพธ์สุดท้ายกันบ้าง เห็นได้ชัดว่าค่าใบอนุญาตรายปีของมหาวิทยาลัยลดลงอย่างมาก โดยทางมหาวิทยาลัยคาดว่าการเปลี่ยนมาใช้ระบบ ArcGIS Indoors จะลดค่าใบอนุญาตรายปีได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว (หลังจากคำนวณรวมค่าใบอนุญาตของทั้ง ArcGIS Indoors และ AutoCAD ที่นำมาใช้แทนระบบ INSITE แล้ว)

 

 


 

ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

 

อ่านเพิ่มเติม