ธนาคารอาหารในรัฐมิชิแกนใช้ Dashboard ในการสร้างกลยุทธ์ บริหารจัดการแจกจ่ายอาหารในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น

 

Food Bank แห่งอนาคตด้วยพลังของข้อมูล

South Michigan Food Bank เป็นหนึ่งในเจ็ดธนาคารอาหาร (Food bank) ของรัฐมิชิแกนที่แจกจ่ายอาหารมากกว่า 11 ล้านปอนด์ต่อปีให้กับคนทั่วไปและหลายครอบครัวครอบคลุมถึง 8 เคาน์ตีในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมมือกับโรงเรียน โบสถ์ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่าง ๆ สร้างตู้ปันอาหาร (Food pantry) พร้อมแจกจ่ายอาหารสดให้กับผู้ที่ขาดแคลนมากที่สุด

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมั่นใจว่าทรัพยากรต่าง ๆ จะไปถึงมือผู้ที่ต้องการมากที่สุด ในความเห็นของปีเตอร์ โวเกิล ซีอีโอขององค์กร South Michigan Food Bank เชื่อว่าอุปสรรคสำคัญคือการขาดข้อมูลของประชากรรัฐมิชิแกนที่ควรได้รับประโยชน์จากบริการ Food bank มากที่สุด การไม่ทราบว่าพวกเขาเหล่านี้อาศัยอยู่พื้นที่ไหนทำให้ยากต่อการตัดสินใจว่าพื้นที่ใดควรได้รับแจกจ่ายอาหาร หรือได้รับทุนช่วยเหลือต่าง ๆ โวเกิลกล่าวว่า “เรามีสถานที่มากมายและมีวิธีการหลากหลายให้ประชาชนสามารถเข้ารับอาหารที่เราแจกจ่ายได้ แต่ผู้ที่มีปัญหาด้านการเดินทางก็อาจไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ ซึ่งคนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน และมีเยอะแค่ไหนกันแน่”

โวเกิลจึงได้ขอความช่วยเหลือจาก ดร. สตีเฟน บอร์เดอร์ส ผู้อำนวยการโครงการบริหารจัดการสุขภาพของมหาวิทยาลัย Coastal Carolina University เพื่อช่วยระบุกลุ่มคนดังกล่าว โดยบอร์เดอร์เคยทำงานกับสภาธนาคารอาหารของรัฐมิชิแกนมาก่อนจึงเข้าใจความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนการรับและแจกจ่ายอาหารขององค์กร และมีความเห็นเช่นเดียวกับโวเกิลในการใช้ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ในการสร้างกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับความไม่มั่นคงทางอาหาร

 

South Michigan Food Bank แจกจ่ายอาหารมากกว่า 11 ล้านปอนด์ต่อปี ครอบคลุม 8 เคาน์ตีทั่วอเมริกา

 

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บอร์เดอร์ได้ใช้ ArcGIS Dashboard สร้าง Dashboard เพื่อช่วยให้องค์กรเห็นภาพข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวข้องกับเคาน์ตีต่าง ๆ ที่ได้ให้บริการอยู่ และนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจรับมือกับความไม่มั่นคงทางอาหารได้ดียิ่งขึ้น

บอร์เดอร์สได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Coastal Carolina University และพวกเขาก็ได้เรียนรู้การทำงานจากประสบการณ์จริงไปด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แมคเคนไซ แคนนอน ผู้มีส่วนสำคัญในการสร้าง Dashboard ของ Food bank ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น แม้ว่าเธอจะเพิ่งเคยใช้ ArcGIS Dashboard แต่ก็สามารถเรียนรู้การใช้ซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว โดยแคนนอนมีความเห็นว่า “เมื่อคุณเรียนรู้ขั้นตอนทั้งหมดแล้ว คุณจะพบว่าโปรแกรมนี้สามารถทำอะไรได้มากมายและสามารถช่วย South Michigan Food Bank ได้เยอะเลย”

ในต้นเดือนสิงหาคม 2022 บอร์เดอร์สและทีมเริ่มถอดข้อมูลจากสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา (US Census Bureau) และเลือกข้อมูลที่มีประโยชน์สูงสุดกับโครงการ เช่น ข้อมูลด้านภาระที่อยู่อาศัย ความยากจน ความไม่มั่นคงทางอาหาร และพื้นที่ขาดแคลนอาหาร (ซึ่งเป็นพื้นที่ในเมืองที่ขาดแคลนอาหารสดที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง) จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น Feeding America องค์กรที่ทำการประมาณการความไม่มั่นคงทางอาหาร และองค์กรอย่าง US Department of Agriculture (USDA) เป็นต้น บอร์เดอร์สกล่าวว่า “สิ่งที่เราต้องการคือข้อมูลที่มีความถูกต้อง และเราต้องการทราบว่าอะไรคือสิ่งสำคัญกับโครงการมากที่สุด และอะไรคือตัวชี้วัดที่ต้องให้ความสำคัญ” จากนั้นทีมงานได้ใช้โปรแกรม Excel ดึงข้อมูลเข้าใน Dashboard และสร้าง Infographic โดยใช้ ArcGIS Business Analyst แสดงข้อมูลแบบ Interactive

 

Infographic มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแสดงข้อมูลด้านความไม่มั่นคงทางอาหารในแง่มุมต่าง ๆ ตามข้อมูลประชากรในแต่ละพื้นที่

 

บอร์เดอร์สมีกล่าวว่า “เราสร้าง Infographic ตามข้อมูลประชากรในแต่ละพื้นที่ เมื่อคุณเริ่มเจาะลึกลงไป คุณจะพบว่าความไม่มั่นคงทางอาหารที่เมืองแคละมะซูต่างจากที่เมืองแบตเทิลครีก และหากเป็นพื้นที่ชนบท ยิ่งพบความแตกต่างมากยิ่งขึ้น” ซึ่งปัญหาสำคัญของผู้ที่อาศัยในชนบทคือการเดินทางซึ่งพวกเขาไม่สามารถรับอาหารได้เพราะอาศัยอยู่ไกลจากที่ตั้ง Food pantry โดยปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญจะถูกนำไปแสดงบน Dashboard เพื่อให้เห็นภาพความต้องการมากที่สุดของแต่ละพื้นที่ ซึ่งในที่สุด Dashboard ก็เสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2023 และ South Michigan Food Bank ก็ไม่รอช้ารีบนำไปใช้ประกอบแผนงานขององค์กรทันที

หนึ่งในหน้าที่สำคัญของ Dashboard คือการช่วย Food bank หาสถานที่สำหรับการจัดตั้ง Food pantry ใหม่ ในสมัยก่อนการแจกจ่ายอาหารไม่ได้กำหนดจากพื้นที่ที่มีความต้องการสูงสุด แต่กลับขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง Food pantry ที่มีอยู่เดิม จนมาถึงปัจจุบันเมื่อมีเครื่องมือที่สามารถแสดงภาพข้อมูลที่เกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางอาหารได้ จึงช่วยให้องค์กรเลือกพื้นที่และความถี่ในการแจกจ่ายอาหารได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น Dashboard ยังมีความสำคัญในการเชื่อมถึงผู้คนต่าง ๆ มากมาย เช่น ช่วยในการให้ความรู้กับผู้ที่อยู่อาศัยและองค์กรที่ต้องการร่วมมือในชุมชนที่ Food bank ให้บริการ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการหาทุนใหม่ ๆ ทั่วรัฐเพื่อช่วยให้ Food bank ได้รับทรัพยากรที่พวกเขาไม่เคยได้มาก่อน

 

การเห็นภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางอาหารในภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่ต้องการให้ความช่วยเหลือในอนาคตเข้าใจสถานการณ์ได้ดีขึ้น

โวเกิลกล่าวเสริมว่า “เรามีโอกาสที่จะขยายโครงการให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยเราตั้งใจที่จะแจกจ่ายอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และตั้งใจที่จะร่วมมือกับเกษตรกรท้องถิ่นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขาอย่างที่พวกเขาอาจไม่ได้จากที่อื่น”

ความสำเร็จของโครงการที่สามารถนำข้อมูลมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพนี้ ทำให้บอร์เดอร์สและทีมงานเริ่มคิดแผนในอนาคต เช่น การขยาย Dashboard ไปยัง Michigan food Bank ในพื้นที่อื่น ๆ “เดี๋ยวนี้เรารู้จักเครื่องมือเป็นอย่างดี และมั่นใจในการสร้างโมเดลและการใช้งานมากขึ้นแล้ว เราจึงเริ่มศึกษาแนวโน้มต่าง ๆ เช่น ความยากจนในแต่ละพื้นที่ว่ามีแนวโน้มที่แย่ลงหรือดีขึ้นอย่างไร ซึ่งเป้าหมายในการใช้ข้อมูลเหล่านี้ก็เพื่อประกอบการตัดสินใจวางแผนในระยะยาว” บอร์เดอร์สให้ความเห็นและกล่าวทิ้งท้าย

“มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีต้นทุนไม่สูงนัก และมหาวิทยาลัยของเราเองก็ได้ประโยชน์จากการนำเครื่องมือมาสอน และนำไปใช้งานจริง ทั้งยังเป็นงานที่มีคุณค่าอย่างมากอีกด้วย”

 

 


ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

 

อ่านเพิ่มเติม