GIS เปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมอ้อยในบราซิล ยกระดับประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความยั่งยืนให้ภาคเกษตร

 

ในยุคที่ภาคเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งเรื่องต้นทุน แรงงาน และสภาพภูมิอากาศ การใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (GIS – Geographic Information System) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรณีศึกษาจาก bp bioenergy บริษัทพลังงานชีวภาพขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล สะท้อนให้เห็นว่าการนำ GIS มาประยุกต์ใช้ในไร่อ้อย ไม่เพียงช่วยเพิ่มผลผลิต แต่ยังลดต้นทุน และยกระดับความปลอดภัยในการทำงานอีกด้วย

 

เปลี่ยนไร่อ้อยแบบดั้งเดิม สู่เกษตรอัจฉริยะ

ในอดีต การเก็บเกี่ยวอ้อยในบราซิลยังทำกันด้วยแรงงานคนในการจัดการพื้นที่ แต่วันนี้กว่า 95% ของการเก็บเกี่ยวถูกเปลี่ยนเป็นระบบเครื่องจักรกล ช่วยเพิ่มผลผลิต ซึ่งไม่เพียงเพิ่มผลผลิต แต่ยังลดผลกระทบต่อแรงงานและสิ่งแวดล้อม

bp bioenergy ในฐานะผู้เล่นหลักของอุตสาหกรรมอ้อยบราซิล ได้ใช้ GIS เพื่อวางแผนและจัดการการเกษตรเชิงพื้นที่อย่างแม่นยำ ตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการประเมินผลผลิตและต้นทุนในแต่ละรอบการผลิต

 

เพิ่มประสิทธิภาพทุกตารางเมตร

bp bioenergy มีพื้นที่เพาะปลูกนับพันเฮกตาร์ กระจายอยู่ใน 5 รัฐของบราซิล และมีโรงงานอุตสาหกรรมการเกษตร 11 แห่งทั่วประเทศ โดยสามรถสร้างผลผลิตได้มากถึง 1.7 ล้านตันต่อฤดูกาล พร้อมกับผลผลิตชีวภาพอื่น ๆ ทั้งเอทานอลและไฟฟ้า

ในการดำเนินงานจริง GIS ช่วยให้ทีมสามารถมองเห็นโอกาสในการปรับปรุงทุกขั้นตอนของกระบวนการ — ตั้งแต่การวิเคราะห์พื้นที่เพาะปลูก การจัดการงานภาคสนาม ไปจนถึงการบริหารต้นทุนและแรงงาน “เราดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ และต้องพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรักษาความสามารถในการแข่งขัน” Miguel Prieto ผู้ประสานงานด้าน GIS ของบริษัท กล่าว

 

ความท้าทายที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

จุดเริ่มต้นของการนำ GIS มาใช้อย่างจริงจัง เกิดจากความท้าทายเล็ก ๆ ระหว่างเพื่อนร่วมงาน Carlos Mondio ผู้ดูแลหน่วยงานการควบคุมการผลิตของโรงงาน Moema หนึ่งในแหล่งผลิตอ้อยหลักของ bp bioenergy มีหน้าที่ดูแลการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้รับเหมาที่ทำงานในแปลงเพาะปลูก ในอดีต บริษัทต้องอาศัยการรายงานจากผู้รับเหมาว่างานแต่ละชิ้นเสร็จสิ้นตามที่ตกลงหรือไม่ ซึ่งขาดระบบตรวจสอบที่แม่นยำ

เมื่อขนาดของงานขยายใหญ่ขึ้น ความจำเป็นในการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์จึงชัดเจนขึ้น Mondio ได้ท้าทาย Prieto ให้สร้างระบบที่สามารถตรวจสอบงานของผู้รับเหมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น — และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

ด้วยการใช้ GIS เพื่อติดตามเส้นทางของรถแทรกเตอร์และเครื่องบินที่ติดตั้งเซนเซอร์ ทีมงานสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ให้บริการภายนอกได้แบบเรียลไทม์ ส่งผลให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ถึง 7%

.

เก็บเกี่ยวแบบแม่นยำ ลดเครื่องจักร เพิ่มผลผลิต

อีกหนึ่งกรณีที่แสดงศักยภาพของ GIS ได้ชัดเจน คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยว Mário Salani Junior ผู้จัดการด้านเครื่องจักรกล ได้ร่วมมือกับ Prieto เพื่อหาวิธีปรับปรุงกระบวนการขนส่งอ้อยที่ซับซ้อนและกินเวลา โดยปกติแล้ว รถเก็บเกี่ยวจะตัดอ้อยและส่งต่อให้รถบรรทุกที่รออยู่ เมื่อรถเต็มจะถูกส่งต่อไปยังโรงงาน และรถเปล่าจะถูกนำมาแทนที่ กระบวนการนี้เมื่อเกิดขึ้นพร้อมกันในหลายแปลงหลายร้อยทีม มักจะเกิดความล่าช้าและการเคลื่อนที่ที่ไม่จำเป็น

ทีมของ Prieto ใช้ระบบ GIS วิเคราะห์เส้นทางและจุดที่เหมาะสมในการรับส่งอ้อย ช่วยให้สามารถวางแผนจุดเข้า-ออกของรถเก็บเกี่ยวได้ล่วงหน้าและกำหนดตำแหน่งจุดถ่ายอ้อยที่ดีที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คือ ลดจำนวนรถเก็บเกี่ยวจาก 223 คัน เหลือเพียง 120 คัน ขณะที่ปริมาณอ้อยที่เก็บเกี่ยวได้ต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 580 ตันเป็น 985 ตันไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยลดการใช้น้ำมันและ การปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

เมื่อข้อมูลเชิงพื้นที่กลายเป็นโครงสร้างหลักขององค์กร

เมื่อความสามารถของ GIS แสดงคุณค่าได้อย่างชัดเจน ความต้องการในการประยุกต์ใช้ก็ขยายไปยังหน่วยงานอื่นในองค์กร ปัจจุบัน bp bioenergy ใช้ GIS ในแอปพลิเคชันที่หลากหลายถึง 23 ระบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเส้นทางฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ไปจนถึงการอัปเดตข้อมูลแปลงอ้อยแบบเรียลไทม์

แปลงอ้อยกว่า 34,000 แปลงของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา — บางพื้นที่เพิ่งปลูก บางพื้นที่เพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จ ในอดีตต้องใช้คนวัดและจดบันทึกทุกแปลง แต่ปัจจุบัน GIS สามารถอัปเดตขนาดและสถานะของแปลงแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การวางแผนด้านการเงิน การใช้ปุ๋ย และการคาดการณ์ผลผลิตทำได้อย่างแม่นยำขึ้นทุกวัน

“พวกเขาจำเป็นต้องรู้ขนาดของพื้นที่ในแต่ละวันอย่างแม่นยำ ทั้งเพื่อใช้วางแผนผลผลิต จ่ายค่าจ้าง และบริหารต้นทุนปัจจัยการผลิต” Mondio กล่าว

.

เรื่องราวของ bp bioenergy คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่า เทคโนโลยี GIS ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือวิเคราะห์แผนที่เท่านั้น แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อน เกษตรกรรมอัจฉริยะ สู่เป้าหมายแห่งประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

 

.

Tags: